เรียนภาษาญี่ปุ่น ณ ฮอกไกโด ตอนที่ 1 ชีวิตเด็กหอ ณ ซัปโปโร
การจะมาอยู่อาศัย ณ ประเทศญี่ปุ่น ภาษาเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะเอาจริง ๆ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ ถ้าตามแหล่งท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ แต่การมาใช้ชีวิตจริง บ้านไม่ได้อยู่ในเมือง แถมอยู่ชนบทกลางทุ่งนา อย่างเกาะฮอกไกโดด้วยแล้ว ภาษาญี่ปุ่นสำคัญอย่างยิ่ง
ก่อนมานี่ก็มีลงเรียนคอร์สพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นไปบ้าง ทำให้พอจำตัวอักษรและศัพท์ได้บ้างนิดหน่อย แบบหน่อยจริง ๆ เพราะไม่ค่อยจะตั้งใจเรียน มาเรียนที่นี่แทบจะเรียกว่าเริ่มใหม่เลยก็ว่าได้
สาก็ใจดีจับไปลงเรียนคอร์ส 3 เดือน ที่ซัปโปโร โดยระหว่างนี้เราก็ต้องไปอยู่หอพักค่ะ ได้กลับไปใช้ชีวิตเด็กหออีกครั้ง รู้สึกตัวเองเป็นคนที่ชีวิตวนเวียนกะหอพักมาตลอดเลยแหะ
จริง ๆ การมาเรียนภาษาที่นี่ สามารถเลือกได้ว่าจะพักแบบอพาร์ทเมนท์หรือหอพัก ทางโรงเรียนจะมีรายชื่อหอและอพาร์ทเมนท์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ให้เราเลือกได้อยู่ แต่ด้วยว่านี่สมัครช้า อพาร์ทเมนท์ก็เต็มไปหมดแล้ว หอแบบรวมก็เต็ม อิชั้นก็เลยได้หอหญิงล้วนจ้า ความฝันที่จะได้แอบเตาะหนุ่ม ๆ หน้าใสวัยละอ่อนของอิชั้นก็หายวับไปกับตา หรือสาจะกลัวว่าชั้นจะแอบปันใจไปกะหนุ่มอื่นระหว่างเรียนก็ไม่รู้ เลยจัดหอพักหญิงล้วนให้ซะเลย
ก่อนจะเริ่มเรียนก็ไปดูหอพักกันซะหน่อย จะได้เตรียมตัวถูกว่าจะต้องขนอะไรมาบ้าง ก็แอบตื่นเต้นนะเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้ใช้ชีวิตหอพักในต่างแดนแบบนี้
หอพักที่นี่ชื่อ 北海道女子学生会館 (อ่านว่า Hokkaidō joshi gakusei kaikan) ชื่อภาษาอังกฤษว่า Hokkaido Women’s Student Hall อะเอาชื่อภาษาไทยก็ หอพักนักเรียนหญิงฮอกไกโด มีเวบไซต์ด้วยเผื่อใครอยากรู้ ตามไปดูที่นี่เลย มีข้อมูลภาษาอังกฤษด้วยบางส่วน
หอพักที่นี่มี 6 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องน้ำกับอ่างล้างหน้า แต่ห้องอาบน้ำมีอยู่แค่ที่ชั้น 1 ใช่ค่ะที่นี่ห้องอาบน้ำรวมจ้า แต่เค้าก็มีห้องอาบน้ำแบบญี่ปุ่นที่มีบ่อออนเซน กับห้องอาบน้ำแบบฝักบัวแบ่งฝั่งไว้ให้ เผื่อใครไม่ชอบอาบน้ำรวม เพราะคนที่พักไม่ได้มีแต่คนญี่ปุ่น จะมีนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนภาษาแบบอิชั้นพักอยู่เหมือนกัน แต่น้อยอะ เจอไม่กี่คนเอง และเค้าจัดให้พักชั้น 6 เกือบหมดสำหรับคนต่างชาติก็เป็นสัดส่วนดี
และเนื่องจากหอพักนี้มีนักเรียนนักศึกษามาพักอยู่ ก็เลยมีโรงอาหาร หรือในภาษาปุ่นเรียกว่า 食堂 – โชคุโด ด้วย ซึ่งสามารถจ่ายค่าอาหารเป็นรายเดือนหรือจะจ่ายแบบเฉพาะมื้อที่อยากกินก็ได้ มื้อเช้า 400 เยน มื้อเย็น 600 เยน ถูกมากกกก ด้วยว่าสากลัวอิชั้นลำบาก ภาษายังไม่ได้กลัวว่าชั้นจะอดตาย จัดการจ่ายค่าหอพักแบบรวมอาหารเช้าเย็นไว้เรียบร้อย ลำบากต้องตื่นและรีบกลับมากินกลัวไม่คุ้ม 555 อ้อ อาหารที่นี่คือมีให้สองมื้อ เช้า – เย็น มีแค่เที่ยงที่ต้องหากินเอง ราคาอาหารต่อเดือนก็อยู่ที่ 25,500 เยน
อาหารที่นี่รสชาติดีทีเดียว อร่อยกว่าร้านอาหารบางร้านอีก เมนูเค้าก็จะมีให้ดูเลยว่า อาทิตย์นี้จะมีเมนูอะไรบ้าง เป็นแบบบุฟเฟต์ ก็เลือกหยิบตักเอาเอง จะกินเยอะเท่าไหร่ก็ได้ เท่าที่ดูคนที่มาใช้บริการโรงอาหารก็จะเป็นนักเรียนประถม มัธยม เสียส่วนใหญ่ มีคนทำงานแล้วบ้างเล็กน้อย
แต่ด้วยความงก อิชั้นก็บอกสาว่าเดือนต่อไปไม่เอาแบบอาหารที่หอแล้วนะ อยากซื้อหากินเอง เอาค่าอาหารมานี่ชั้นไปช๊อปเองค่ะ ซุปเปอร์ใกล้ ๆ เดินไปซื้อมาทำเองได้ ครัวมีตู้เย็นมี สาก็ตามใจค่ะ สรุปเปลืองกว่ากินข้าวหออีก 555 ตุนจนตู้เย็นในห้องเต็ม
แต่ถ้าใครไม่ได้เลือกเช่าแบบรวมอาหาร ก็สามารถซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเองได้ เพราะแต่ละชั้นจะมีครัว และห้องทานอาหารเล็ก ๆ ที่มีไมโครเวฟวางไว้ให้ไช้ อุปกรณ์อย่างหม้อ กระทะ ก็มีไว้พร้อมไม่ต้องซื้อเอง มีแค่มีดที่ต้องซื้อเพราะเค้าไม่มีให้ เพื่อความปลอดภัยนะคิดว่า
นอกจากนี้ ห้องที่เป็นส่วนรวมก็จะมีห้องอ่านหนังสือ ห้องคอมพิวเตอร์ที่จะมีคอมกับปรินท์เตอร์ไว้ให้ใช้ และห้องซักผ้า ที่จะมีเครื่องซักผ้า อบผ้าแบบหยอดเหรียญไว้ให้บริการ
ส่วนไฮไลท์ของเราก็คงไม่พ้นห้องพัก คือเจอห้องเช่าที่ไทยว่าเล็กแล้ว มาเจอหอพักที่นี่แบบแม่เจ้า จะประหยัดพื้นที่ไปไหน เปิดประตูไปเจอครั้งแรกแอบอึ้งเล็กน้อยถึงปานกลาง แบบเดิน 4-5 ก้าวถึงหน้าต่างอีกฝากของประตู ส่วนความกว้างนั้น เดินสามก้าวถึง เป็นห้องขนาดประมาณ 2.5 x 3.5 เมตรได้มั้ง ไม่ได้วัดกะเอานะ นึกว่าล็อกขายของตามตลาดนัด
ในห้องก็จะมีเตียงแบบสองชั้นแต่ชั้นล่างใต้เตียงจะไม่มีเตียงเป็นที่โล่ง โต๊ะเขียนหนังสือและเก้าอี้หนึ่งตัว ตู้เสื้อผ้า 1 ตู้ ตู้เย็นอีก 1 ตู้ ชั้นวางของเล็ก ๆ อีก 1 ตู้ พื้นที่ที่ว่างเยอะสุดคือพื้นที่ใต้เตียงนี่หละ หมอนผ้าห่ม อะไรเค้ามีให้นะ ผ้าปูก็มี คือพร้อมเข้าอยู่ ขนเสื้อผ้ามาได้เลยว่างั้น ในห้องจะมีฮีทเตอร์ แต่ไม่มีแอร์หรือพัดลม
เป็นห้องเล็กที่สุดที่เคยอยู่มาเลยก็ว่าได้ ได้นอนเตียงแบบสองชั้นเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งต้องปีนขึ้นเตียงไปนอน ขาขึ้นไม่เท่าไหร่ ขาลงตอนตื่นนอนนี่สิ จะตกเตียงเอา ห้องตัวเองที่ไทยก็ซื้อเตียงแบบนี้ไว้เหมือนกันแต่ใหญ่กว่านี้ เตียงที่นี่ขนาด 3 ฟุตได้ เห็นว่ามีห้องใหญ่กว่านี้ด้วย แต่ก็ราคาแพงกว่าหน่อย แต่เราอยู่แค่สามเดือนก็เลยเห็นว่าแบบนี้ก็ได้ สบายดี ไม่ต้องทำความสะอาดเยอะ
หอพักที่นี่มีห้องพัก 3 แบบ เพิ่งมารู้ที่หลัง แบบที่อิชั้นพักคือ แบบ A (เสื่อทาทามิ 1 ผืนมีพื้นที่ 880mm×1760mm หรือประมาณ 1.55 ตารางเมตร)
- แบบ A ถูกสุดเล็กสุด ขนาดประมาณ 5 เสื่อทาทามิ เดือนละ 28,000 เยน แต่ชั้นจ่ายแพงกว่าราคานี้เพราะกรณีพิเศษ อยู่ระยะสั้น และไม่ต้องมัดจำหรือจ่ายค่าแรกเข้า ค่ารายปีอื่น ๆ น่าจะจ่ายไปเดือนละ 32,500 เยน
- แบบ C (แบบ B ไม่มีไม่รู้ทำไม) ก็จะกว้างกว่าแบบ A ขนาดห้อง 9 เสื่อทาทามิ เตียงจะเป็นแบบเตียงเดี่ยว มีเฟอร์หรูหราอลังการมากกว่า ตู้เยอะกว่า ราคาเดือนละ 33,500 เยน
- แบบ D อันนี้ใหญ่สุด จะเป็นการเอาห้องแบบ A สองห้องเชื่อมกัน แบ่งเป็นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ขนาด 10 เสื่อทาทามิ ก็จะขยับตัวได้เยอะขึ้น ราคาเดือนละ 35,000 เยน
พอดีอยู่แค่ 3 เดือน ถ้าอยู่เป็นปีอาจจะอยากได้ห้องใหญ่ 5555 เพราะเชื่อว่าของในห้องจะงอกแน่ ๆ สำหรับสายขยันซื้อแบบชั้น ใครอยากเห็นว่าห้องเป็นแบบไหน คลิ๊กดูที่แต่ละแบบได้เลยรูปห้อง 360 องศา
การเดินทางไปโรงเรียนจากหอพักนั้นก็ใช้รถบัสรับส่งของหอที่มีจัดไว้ ถือว่าสะดวกดี ไม่ต้องไปรอรถเมล์ที่ป้าย รถก็จะมีเป็นรอบ ๆ จะเลือกขึ้นเวลาไหนก็แล้วแต่เรา ก็จะมีรอบประจำที่ใช้เพราะไปถึงโรงเรียนจะพอดีกับเวลาเข้าเรียนกำลังดี รอบบ่ายก็จะมีรถวนมาตรงเวลาเราเลิกเรียนเช่นกัน ถ้าไม่แวะเที่ยวไหน หรือเหนื่อยไม่อยากไปไหนต่อก็ตรงกลับหอเลยสะดวกมาก
ในหน้าร้อนก็เห็นบางคนปั่นจักรยานไปเองก็มี ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีเลยทีเดียว แต่หน้าหนาวก็งดปั่นจ้าเพราะถนนลื่นมาก หนาวมาก ไม่มีใครปั่นเท่าไหร่ อ้อ นอกจากนี้วันเสาร์ อาทิตย์เค้าก็มีรถบัสบริการ โดยเส้นทางรถก็ไปถึงสถานีซัปโปโร ก็ไปช๊อปไปเที่ยวได้สบายเลย
การเช่าหอที่นี่ก็คล้ายที่ไทย ที่นอกจากค่าเช่าแล้วก็มีค่าสมัคร ใช่ค่ะค่าสมัครเพื่อจองห้องพักที่คิด 30,000 เยน และยังมีค่าแรกเข้า 70.000 เยน ค่ารายปี 150,000 เยน รวมทั้งสิ้น 250,000 เยน ที่ต้องจ่ายโดยไม่เกี่ยวกับค่าห้องพักรายเดือน ปกติค่าไฟค่าน้ำค่าอินเตอร์เน็ตฟรี ยกเว้นช่วงหน้าหนาว เดือน ต.ค. – เดือน มี.ค ที่จะเก็บเพิ่มค่าฮีทเตอร์ เดือนละ 7,000 เยน
ค่าอื่นๆ ก็เช่นค่าบริการที่นอน ผ้าห่ม ผ้าปู ปีละ 25,200 เยน ซึ่งเค้าจะเปลี่ยนที่นอนใหม่ทุกปี ส่วนผ้าปู ปลอกหมอนนั้น จะมีบริการเปลี่ยนให้เดือนละ 2 ครั้ง เค้าจะมีเตรียมไว้ให้ เราก็แค่ต้องไปเอามาเปลี่ยนเอง
ในหอมีน้องคนไทยอยู่คนหนึ่งก่อนแล้ว ชื่อน้องหยก น้องมาเรียนภาษา 2 ปี เรียนที่โรงเรียนเดียวกันนี่หละ น้องมาอยู่นี่ก่อนแล้วปีนึง ถือว่าเป็นรุ่นพี่ของอิชั้นได้เลย ต้องบอกว่าโชคดีมากที่เจอน้องหยก เพราะได้น้องช่วยแนะนำในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โรงเรียนหรือหอพัก
อืม เห็นหอแล้ว ก็ใกล้ได้เวลาต้องกลับเป็นนักเรียนอีกครั้ง วันแรกของการไปโรงเรียนและใช้ชีวิตในหอจะเป็นยังไง มาลุ้นและเอาใจช่วยอิชั้นไปด้วยกันนะคะ ว่าจะรอดไปได้ไหม