ตำซูกินี เมนูเบา ๆ สายเฮลตี้ห้ามพลาด

อยากกินส้มตำ แต่การหามะละกอ สำหรับแม่บ้านต่างประเทศแบบเราก็ไม่ได้หาได้ง่าย ยิ่งอยู่ฮอกไกโด แถมบ้านนอกอย่างป้าด้วยแล้ว ยังไม่เคยเจอมะละกอดิบวางขายแถวบ้านเลยสักครั้ง

ด้วยความอยากกินก็ต้องหาอะไรมาใช้ทดแทน ซึ่งสิ่งที่สามารถหาได้และใช้กล้อมแกล้มแทนมะละกอ ก็ได้แก่แครอท และซูกินี

แต่บอกตรง ๆ ว่าไม่เคยกินซูกินีมาก่อนเลยตอนอยู่ไทย เพิ่งมาเคยกินก็ตอนอยู่ญี่ปุ่นนี่หละ แหม มันเป็นผักที่ดูไฮโซ ผักต่างประเทศแถบยุโรป ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษนู่น ราคาก็แอบสูง และก็ไม่ค่อยเห็นตามตลาดนัด ก็เลยไม่เคยจะได้รู้จัก

พอได้รู้จักก็แอบติดใจในรสชาติและความง่ายในการเอาไปทำอาหาร และคุณประโยชน์ของมันที่เหมาะกับคนอยากควบคุมน้ำหนักและรักสุขภาพมาก แถมเอาไปทำหารก็ง่าย ได้หลากหลายทั้ง ต้ม ผัด ย่าง ทอด ได้หมด

แถมสารอาหารในซูกินีก็มีดีไม่แพ้ผักชนิดอื่น ๆ ทั้งมีเส้นใยสูง บำรุงสายตา บำรุงหัวใจ ช่วยลดคลอเรสเตอรอล ไปทำความรู้จักกับซูกินีเพิ่มเติมได้ที่นี่ ลดอาการท้องผูก บำรุงสายตา ด้วยซูกินี

วันนี้เลยจะมาแนะนำเมนูตำซูกินี หรือจะเรียกสลัดซูกินีก็คงได้เหมือนกัน สำหรับสายอยากไดเอท และรักสุขภาพให้ได้ลองทำกัน

วัตถุดิบ ซูกินี แครอท มะเขือเทศ ถั่วอัลมอนด์หรือมะม่วงหิมพานต์

เครื่องปรุงรส ก็ใช้แบบทำส้มตำหรือน้ำยำ ได้แก่ น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป หรือน้ำตาลทรายขาวก็ได้ตามชอบ มะนาว พริก กระเทียม หรือถ้าเอาง่ายแบบสายไม่ชอบยุ่งยากแบบเราก็นี่เลยค่ะ น้ำยำสำเร็จรูป ของรสดี อย่างเดียวพอไม่ต้องผสมปรุงรสเองให้ยุ่งยาก

วิธีทำ

1. สไลด์ซูกินีเป็นเส้น ๆ ยาว ๆ หน่อย ถ้าหั่นแบบมะละกอมันจะเละไป เพราะเนื้อซูกินีนิ่มกว่ามะละกอมาก ไม่เหมาะจะเฉาะแบบนั้นโดยส่วนตัวนะชอบแบบนี้

2. สไลด์แครอทเพิ่มลงไปเพื่อให้มีสีสัน แต่ใครไม่ชอบแครอทไม่ต้องใส่ก็ได้

3. หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ

4. เตรียมน้ำปรุงรส แบบส้มตำ เอากระเทียม พริก น้ำปลา มะนาว น้ำตาลผสมกัน ให้ได้รสที่ชอบ หรือถ้าใช้ผงน้ำยำแบบป้าก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ข้ามไปได้เลย

5. เอาผักที่เตรียมไว้ผสมในชามหรือจะเอาใส่ครกก็ได้ แล้วเอาน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้หรือ ผงน้ำยำ ใส่ลงไป จะใช้ช้อนคลุกหรือสากตำเพื่อให้ได้อารมณ์ส้มตำก็ได้ ส่วนตัวใช้สากตำช่วยยี ๆ มะเขือเทศให้มันเข้ากัน รู้สึกอร่อยกว่าคลุกผสมกันอย่างเดียว

6. พอคลุกได้พอเข้ากันก็เอาอัลมอนด์หรือมะม่วงหิมะพานต์ทุบให้เล็กหน่อยโรยแทนถั่วลิสง ช่วยให้อร่อยและได้วิตามินและไขมันดี ๆ จากถั่วอีก แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมกินได้แล้ว ใครแพ้ถั่วก็ไม่ต้องใส่เด้อ กินได้เหมือนกัน

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำบ่อยเวลาอยากได้เมนูผักสักอย่างในมื้ออาหาร แบบมีรสชาติเผ็ด ๆ แบบไทยเรา ไม่ใช่รสน้ำสลัดงาขาว และไม่อยากใช้น้ำมัน ก็จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ทำเพราะง่ายมาก ใช้เวลาไม่นานและอร่อย

ไม่รู้เพื่อน ๆ มีใครเคยลองทำเมนูนี้กันบ้างหรือยัง ลองเอาไปทำกันดูได้นะคะ ใครสายคีโตก็ทำกินได้ แค่ปรับเครื่องปรุงให้เป็นแนวคีโตแค่นั้นเอง สายคลีนนี่ยิ่งสบายเลยค่ะ หวังว่าเมนูนี้จะถูกใจเพื่อน ๆ นะคะ ใครได้เอาไปลองทำดูแล้ว ชอบหรือไม่มาบอกกันบ้างน้า