เรียนภาษาญี่ปุ่น ณ ฮอกไกโด ตอนที่ 2 โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น

ไม่เคยคิดจะเรียนภาษาญี่ปุ่นจริงจังมาก่อนเลยในชีวิต เพราะว่าก็ไม่ได้คลั้งไคล้อะไรในญี่ปุ่นขนาดนั้น ถึงแม้จะชอบกินซูชิ ซาซิมิ แกงกะหรี่ญี่ปุ่น มากแค่ไหน หรือจะบ้านชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมาตั้งแต่วันกระเตาะ จนปัจจุบันก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น

แต่เพราะดันจับพลัดจับพลูมาแต่งกะลุงญี่ปุ่นซะงั้น งานก็งอกสิ (ส่วนอยู่ดี ๆ กลายมาเป็นแม่บ้านต่างด้าว อยู่นี่ได้ไง ไว้ว่ากันวันหลัง) พาลให้ต้องหันมาเรียนภาษาญี่ปุ่น

ก่อนจะมาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ฮอกไกโดก็ได้ลงเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่นที่ไทยนะ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยทำได้แค่คำศัพท์เบื้องต้นและศัพท์มานิดหน่อยประกอบกับไม่ค่อยจะตั้งใจเรียน ก็แหม คนมันไม่ได้สนใจอยากจะเรียนตั้งแต่แรกอะ แถมสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้ใช้ ณ ตอนนั้น

พอมาถึงฮอกไกโด สาผู้แสนดีก็จัดการสมัครเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น 3 เดือนที่โรงเรียนสอนภาษาในซัปโปโรให้เรียบร้อย ไม่เปิดโอกาสให้อิชั้นได้ตัดสินใจ คัดค้าน หรือเลือกโรงเรียนเลยสักนิ๊ดดด แม้แต่หอพักนางก็จัดให้ค่ะ เลยได้ใช้ชีวิตเด็กหอ ณ เมืองนอกครั้งแรกกันเลย ใครอยากรู้ว่าหอพักแบบไหน ไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ

สาเลือกโรงเรียน 札幌国際日本語学院 – JLI – Japanese Language Institute of Sapporo เป็นโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอันดับหนึ่งในฮอกไกโด ตั้งอยู่เขตมารุยาม่า ย่านที่ถือได้ว่าสะดวกและใกล้แหล่งท่องเที่ยวด้วย ซึ่งหอพักที่สาจัดให้มีรถรับส่ง ถึงหน้าโรงเรียนทำให้สะดวกในการเดินทางมาเรียนมาก อารมณ์กลับไปเป็นนักเรียนขึ้นรถรับส่งเวลาไปเรียนก็มาค่ะ

โรงเรียนนี้ส่วนใหญ่ที่มาเรียนเป็นนักเรียนต่างชาติจากหลากหลายประเทศ เรียกว่าได้เพื่อนจากหลายประเทศเลย แถมส่วนใหญ่เป็นหนุ่ม ๆ ทั้งน้าน หือ ป้าหละมองเพลินเลย การแบ่งระดับการเรียนก็มีตั้งแต่เบสิคตามระดับการสอบวัดระดับทักษะภาษาญี่ปุ่น JLPT จนถึงระดับเพื่อไปเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

ตอนไปเรียนก็เจอน้องคนไทยในชั้นเรียนเดียวกันทำให้ป้าอุ่นใจอย่างน้อยก็มีคนพูดภาษาเดียวกันละ แต่เราไม่ได้นั่งเรียนด้วยกันเลยค่ะ และก็มีคนไทยในชั้นเรียนอื่น ๆ ที่เป็นรุ่นพี่ที่มาเรียนก่อนหน้าในระดับชั้นสูงกว่าอีก 5-6 คน ก็ได้น้อง ๆ คนไทยพากินพาเที่ยว แนะนำเรื่องต่าง ๆ ช่วยได้เยอะ

หลักสูตรการเรียนก็มีตั้งแต่ระยะสั้น 1 สัปดาห์จนถึง 2 ปีขึ้นไป ค่าเรียนเริ่มต้นที่ 75,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 22,000 บาท) อันนี้คือค่าเรียนอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับค่าที่พักหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และค่าแรกเข้านะเออ แต่นี่คือเรียนแบบ 5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 4 ชม.

ทางโรงเรียนมีรายชื่อหอพักและอพาร์ทเมนท์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ไว้ให้นักเรียนได้เลือกใช้บริการ แต่ก็มีที่แบบพอมาอยู่แล้วไม่ชอบยอมทิ้งค่ามัดจำแล้วหาที่ใหม่อยู่เองก็มี บางทีถ้าจองไม่ทันก็เต็ม หรืออยากจะหาอพาร์ทเมนท์อยู่เองก็ได้ แต่ก็ไม่แนะนำถ้าภาษาญี่ปุ่นไม่แข็งแรงพอจะสื่อสารได้เอง เพราะมันจะมีเรื่องเอกสาร เรื่องกฎระเบียบ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยิบย่อยมากกกก โดยเฉพาะคนที่อยู่อพาร์เมนท์ ถ้าอยู่หอตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลย จ่ายทีเดียวจบ เรื่องไม่เยอะ

คลาสเรียนที่นี่จะเป็นการเรียนแบบครึ่งวัน เฉพาะช่วงเช้า ไม่มีคลาสแบบเต็มวัน ทำให้นักเรียนสามารถไปรับจ๊อบทำงานพาร์ทไทม์ได้ ซึ่งตรงนี้ทางโรงเรียนก็มีการช่วยเหลือ สำหรับนักเรียนที่สนใจอยากหางานทำ แนะนำการสมัครงานและการหางานให้ด้วย บางคนทำแล้วพอจะกลับก็ส่งต่องานให้รุ่นน้องไปสมัครและทำต่อก็มี

มาถึงครูผู้สอนกันบ้าง ก็จะมีครูสอนสลับกันไป และพูดแต่ญี่ปุ่นล้วน แต่คลาสเด็กอ่อนแบบเรา ครูก็จะมีภาษาอังกฤษหลุดมาให้บ้าง ถ้าเห็นหน้านักเรียนเหวอแบบทั้งห้อง แบบทำยังไงก็ไม่เข้าใจแล้ว และต่อให้ครูพูดสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นรัว ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจ เพราะก็ด้วยท่าทางประกอบ ทำให้แบบเออ ก็เข้าใจไปได้เอง มีงง บ้างก็สะกิดถามเพื่อนไม่ก็จดไว้ไปหาความหมายทีหลัง หรือไม่ก็ถามกดถามอากู๋นั่นหละ

นอกจากเรียนในห้องเรียนแล้ว ทางโรงเรียนก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งปาร์ตี้ กิจกรรมแจกบัตรเข้าชมที่ต่าง ๆ ทริปสั้นแบบวันเดียว คลาสวัฒนธรรม และคลาสติวเตอร์ที่ให้นักเรียนในคลาสเพื่อครูสอนภาษามาสอนและคุยกับนักเรียนชั้นเรียนภาษา เรียกว่า มีอะไรให้ทำตลอด ๆ

ที่เห็นน้อง ๆ คนไทยมาเรียน ส่วนใหญ่แล้วเรียนระยะยาวเป็นปี น้อง ๆ สามารถพูดสื่อสารและทำงานพาร์ทไทม์หาค่าขนมได้แบบไม่มีปัญหา เรียกว่ามาแล้วได้จริง ๆ บางคนสอบผ่านจนได้ระดับ N1, N2 ก่อนกลับไทยกันเลยทีเดียว หืออยากเรียนยาว ๆ บ้างเลยอะ

จริง ๆ โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นมีหลายที่ แต่ถ้าดูเรื่องค่าครองชีพแล้ว ทางฮอกไกโดถูกกว่าที่อื่น ๆ ครึ่งนึงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเรื่องค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และถ้าแบบชอบชีวิตชิล ๆ ไม่เร่งรีบ ไม่แออัด แนะนำให้มาเรียนที่ฮอกไกโด เพราะชิลมาก

ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษา ไปดูได้ที่เวบไซต์ของทางโรงเรียนนี่เลย มีภาษาไทยด้วย หรือจะไปติดตาม Facebook ของทางโรงเรียนได้ที่นี่

เล่าสรรพคุณโรงเรียนที่เรียนไปหละ ยังไม่เข้าห้องเรียนสักที ก็ล่อซะยาวขนาดนี้ เดี๋ยวตอนหน้าจะมาเหลาให้ฟังถึงการไปเรียนวันแรกและบรรยากาศการเรียนว่าเป็นอย่างไร จะสนุกสนานหรือน่าเบื่อ ยังไงมาลุ้นกัน