วันไวท์เดย์ การตลาดของบริษัทขนมในญี่ปุ่น
วันวาเลนไทน์ คือวันที่ผู้หญิงให้ช็อคโกแลตแก่ผู้ชาย ดังนั้นวันไวท์เดย์ก็คือวันที่ฝ่ายชายจะตอบแทนคืนแก่ฝ่ายหญิง แต่วันนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นนะ
ด้วยนิสัยโดยธรรมชาติของคนชนชาติญี่ปุ่น ได้รับอะไรมาต้องตอบแทนกลับ จึงทำให้เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดวันนี้ขึ้น
โดยเริ่มแรกก่อนจะเป็นไวท์เดย์ วันนี้ถูกเรียกว่าวันมาร์ชเมลโล่ ในปี 1977 บริษัทขนม อิชิมุระ มันเซโดะ (Ishimura Manseido) ในจังหวัดฟุกุโอกะ ได้ทำการตลาดเพื่อขายมาร์ชเมลโล่ โดยต้องการให้มาร์เมลโล่เป็นขนมเพื่อการตอบแทนสำหรับช็อคโกแลตที่ได้รับในวันวาเลนไทน์ เป็นร้านแรกในวันที่ 14 มีนาคม
ด้วยที่มาร์ชเมลโล่มีสีขาว และนอกจากมาร์ชเมลโล่แล้ว บริษัทขนมอื่น ๆ ก็ผลิตสินค้ามาสำหรับวันนี้กันมากมาย ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นวันไวท์เดย์แทน
ธรรมเนียมดั้งเดิมคือฝ่ายชายต้องให้ของตอบแทนคืนถึง 3 เท่าของมูลค่าของที่ได้รับ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถึงขนาดนั้น เพราะถ้าต้อง 3 เท่านี่มีจนกันหละ
ของตอบแทนก็ไม่ได้จำกัดแค่มาร์ชเมลโล่ มีทั้งคุกกี้ ขนม ลูกอม ลูกกวาด หรือแม้แต่ผ้าขนหนู และเครื่องประดับ
ซึ่งวันไวท์เดย์นี้ ก็ได้แพร่หลายไปยัง จีน เกาหลี ประเทศเพื่อนบ้าน ก็ถือเป็นวันที่สาว ๆ ต่างรอลุ้นว่าจะได้อะไรตอบแทนจากหนุ่ม ๆ ที่ให้ไป
นอกจากสาว ๆ จะได้ลุ้นว่าจะได้อะไรจากฝ่ายชายแล้ว บริษัทขนมต่าง ๆ ยังได้โอกาสออกขนมใหม่ ๆ สินค้าใหม่ ๆ เพื่อวางจำหน่ายในวันนี้ นอกจากวันวาเลนไทน์อีกด้วย เรียกว่า เป็นการเอาวัฒนธรรมการตอบแทน มาเป็นโอกาสในการขายได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
แล้วเพื่อน ๆ หละค่ะ ไวท์เดย์นี้ ลุ้นกันหรือเปล่าว่าจะได้อะไร